คุณเคยมีความกลุ้มใจเรื่องน้ำหนักเกินไหม? ถ้าเคย คุณรู้สึกหดหู่ใจในแต่ละวันเพราะความอยากอาหารที่ไม่สามารถควบคุมได้ใช่ไหม? คุณกำลังทุกข์ทรมานจากโรคภัยเพราะไขมันส่วนเกินในร่างกายใช่หรือไม่? หากคุณต้องการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แน่นอนว่าการลดน้ำหนักเป็นเป้าหมายที่ต้องทำอย่างพากเพียรจึงจะสำเร็จได้
มีหลายคนที่กินยาลดความอ้วน แต่ผลข้างเคียงของยาลดความอ้วนก็มีมากมาย สำหรับวิธีลดน้ำหนักแบบอื่น ๆ นั้น บางวิธีก็อาจได้ผลช้า บางวิธีก็มีข้อจำกัดทางสถานที่ บางวิธีผลของการลดน้ำหนักก็ไม่เป็นที่น่าพอใจ บางวิธีก็มีแนวโน้มที่จะโยโย่ กล่าวโดยสรุปคือ หากคุณต้องการลดน้ำหนัก คุณต้องหาวิธีที่เหมาะสมและยั่งยืนกับคุณ ไม่อย่างนั้นการลดน้ำหนักแบบสุ่มสี่สุ่มห้าอาจทำให้วงจรอุบาทว์ของน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นซ้ำ ๆ ซึ่งจะทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายลดลงและนำไปสู่ความผิดปกติของต่อมไร้ท่อที่ร้ายแรงได้
เคล็ดลับการลดน้ำหนักที่ดีเยี่ยม ── ก็คือการกราบอัษฎางคประดิษฐ์ ซึ่งไม่ต้องใช้เงินและไม่มีผลข้างเคียง ไม่เพียงแต่ลดน้ำหนักได้อย่างรวดเร็วเท่านั้น แต่ยังสามารถซ่อมแซมการทำงานต่าง ๆ ของร่างกายในหลาย ๆ ด้าน ป้องกันและลดการเกิดโรคต่าง ๆ ได้ และที่น่าอัศจรรย์ใจยิ่งกว่านั้นก็คือยังสามารถช่วยพัฒนาสติปัญญาได้อีกด้วย
อยากหลุดพ้นจากความกลุ้มใจในความอ้วนใช่ไหม? โปรดอ่านเรื่องราวดังต่อไปนี้ ตราบใดที่คุณมุ่งมั่นพากเพียร ความสำเร็จในการลดน้ำหนักก็จะไม่ใช่เรื่องห่างไกลอีกต่อไป
รูปร่างดีมีเสน่ห์ ── ได้มาจาก “ความมุ่งมั่นพากเพียร”
เนื่องจากได้ช่วยให้เพื่อน ๆ ของเราลดน้ำหนักได้สำเร็จหลายคนแล้ว เราจึงเริ่มกลายเป็น “ดวงดาวผู้ช่วยเหลือ” ในสายตาของคนที่ลดน้ำหนัก ซึ่งก็มักจะมีเพื่อน ๆ บางส่วนที่มาพูดคุยกับเรา เพราะอยากรู้เคล็ดลับในการลดน้ำหนัก
Richen เป็นหนึ่งในผู้ประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนักตามวิธีการต่าง ๆ ของเรา เช่นการกราบอัษฎางคประดิษฐ์ที่แนะนำไว้ในวารสารสองฉบับก่อนหน้านี้ เธอประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนักตามอุดมคติของตนเองจาก 72 กก. เป็น 59 กก. โดยใช้เวลาไม่ถึงสามเดือน
เมื่อไม่กี่วันก่อน Jane เพื่อนสาวรูปร่างอ้วนของเธอเข้ามาคุยกับฉัน เรานั่งคุยกันที่ร้านน้ำชา บทสนทนาดำเนินไปอย่างผ่อนคลายและเป็นที่น่ารื่นรมย์ในตอนแรก ทว่าหลังจากพูดคุยกันได้ 10 นาที ฉันก็เริ่มรู้สึกว่าเธอกำลังใช้น้ำเสียงที่เป็นการตั้งคำถามกับฉัน ความหมายโดยประมาณของเธอก็คือ: ฉันก็ทำตามวิธีที่ Richen บอกฉันนะคะ แต่ทำไมถึงไม่ได้ผล? หรือว่าวิธีนี้จะไม่เห็นผลคะ?
ฉันถามเธอว่า: “เธอได้ทำตามวิธีการทั้งหมดของหลักสูตรไหม? ”
“ทำสิ! ”
“เธอได้ออกกำลังกายหรือเปล่า?”
“ฉันทำแล้ว! ” เธอตอบด้วยใบหน้าที่อับจนหนทางและกลัดกลุ้ม: “ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้คะ? วิธีการของฉันมีอะไรผิดพลาดไปเหรอ หรือว่า Richen กั๊กไว้ไม่ได้บอกวิธีการทั้งหมดให้กับฉัน? ”
เมื่อเห็นอาการเศร้าซึมของเธอ ฉันก็ทนไม่ไหวจริง ๆ ฉันหวังจากใจจริงว่าจะสามารถช่วยเธอหาสาเหตุที่ทำให้น้ำหนักของเธอยังไม่ลดลงอย่างชัดเจนให้ได้ แต่หลังจากที่ถามไปก็ไม่มีอะไรผิดพลาดเกี่ยวกับวิธีการของเธอเลย นอกจากการกราบอัษฎางคประดิษฐ์วันละ 2-3 ชั่วโมงแล้ว เธอยังใช้วิธีลดน้ำหนักแบบ “4 in 1” ที่แนะนำไว้ในวารสารฉบับที่แล้วอีกด้วย โดยเธอเองก็ได้ใช้ทั้งชามสเตนเลสขนาดเล็ก แก้วน้ำ สายรัดเอวแถบยืด เบาะรองกราบและเครื่องมืออื่น ๆ ที่ช่วยในการลดน้ำหนักแล้ว
“เธอทำแบบนี้มานานแค่ไหนแล้ว?” ฉันถามด้วยความสงสัย
“เกือบจะได้ 10 วันแล้ว ยกเว้นในวันที่มีอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย ทำไมไม่เห็นผลอะไรเลยล่ะ วิธีนี้ใช้ไม่ได้ผลหรือเปล่า?”
“10 วันงั้นเหรอ?” ฉันถามย้ำด้วยความประหลาดใจ
“ใช่! มีอะไรเหรอ?”
จู่ ๆ ฉันก็นึกขึ้นได้ว่าเมื่อตอนสิ้นปีค.ศ.2011 ฉันได้ถามเพื่อน ๆ บน Facebook ว่า: “ในปี 2011 ที่ผ่านมาคุณได้รับหรือเสียดายกับอะไรกันบ้าง?” เพื่อน ๆ ตอบกลับมาว่า: “การได้รับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือความยึดมั่นในศรัทธาและทำให้มันเกิดขึ้นจริง”
ฉันบอกกับเธอเหมือนสิ่งที่เพื่อนพูดให้เธอฟังว่า “การที่คุณจะลดน้ำหนักได้สำเร็จหรือไม่นั้น มีความเกี่ยวข้องอย่างยิ่งกับความศรัทธาที่ว่าตนเองจะสามารถมุ่งมั่นพากเพียรได้มากพอหรือไม่ ถ้าคุณอยากลดน้ำหนักได้สำเร็จ คุณต้องมีความมุ่งมั่นพากเพียรเป็นที่ตั้ง ถ้าคุณทำไปได้ 10 วันก็หวังจะบรรลุเป้าหมายแล้ว มันจะเป็นไปได้ยังไง?”

เธอมองมาที่ฉันอย่างครุ่นคิด ฉันหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมา จากนั้นก็ดึงการ์ดใบเล็ก ๆ ออกมายื่นให้เธอ โดยมีเรื่องเล่าสั้น ๆ ถูกพิมพ์ไว้บนการ์ด:
มีคนหนึ่งถามท่านปรมาจารย์ว่า: “ความสำเร็จอยู่ห่างไกลจากคนธรรมดาอย่างเราใช่ไหมคะ?”
ท่านปรมาจารย์ตอบว่า: “ไม่ใช่อย่างนั้นเลย สำหรับการประสบความสำเร็จของทุกคนนั้น ที่จริงต้องใช้เพียงแค่สามก้าวเท่านั้น”
“สามก้าวแบบไหนคะ?”
ท่านปรมาจารย์ตอบว่า: “ก้าวแรกค้นหาเป้าหมาย อีกก้าวหนึ่งเริ่มลงมือทำ ก้าวสุดท้ายมุ่งมั่นพากเพียรให้ถึงที่สุด”
อันที่จริง ความสำเร็จอยู่ตรงหน้าของทุกคนเสมอ ตราบใดที่ก้าวแรกของคุณมั่นคงและเพียรพยายามต่อไปให้ถึงที่สุด คุณก็จะไปถึงจุดหมายของความสำเร็จได้
ฉันตบเบา ๆ ที่ไหล่เธอ: “การมีรูปร่างดีมีเสน่ห์จะได้มาหลังจากตรากตรำด้วย ‘ความเพียร’ มาเป็นเวลานาน หลังจากนี้ไม่กี่เดือนเราค่อยมาคุยกันอีก ดีไหม?”
เธอพยักหน้าและยิ้มให้
การลดน้ำหนักคือการบำเพ็ญปฏิบัติอย่างหนึ่ง
หลิงหลิงเป็นเพื่อนสาวที่ “รูปร่างอุดมสมบูรณ์” ครั้งหนึ่งเธอเคยบอกตอนที่ไปเที่ยวว่า: “สำหรับคนขี้เกียจอย่างฉัน การออกกำลังกายอาทิตย์ละครั้งมันเป็นเรื่องยากเกินไป แถมฉันยังควบคุมความอยากขนมไม่ได้ด้วย บางครั้งแผนการลดน้ำหนักก็ต้องถูกยกเลิกไปหลังจากทำมาได้แค่ไม่กี่วัน น้ำหนักก็เลยดีดกลับสู่รูปร่างเดิมอย่างรวดเร็ว แถมยังมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกด้วย ฉันได้ยินมาว่าพวกคุณแนะนำคนจำนวนมากเกี่ยวกับการลดน้ำหนักจนสำเร็จและกลับสู่ชีวิตที่มีสุขภาพดีและมีความสุข คุณมีเคล็ดลับอะไรเหรอ?”
ฉันตอบว่า: “ที่จริงการลดน้ำหนักก็เหมือนการฝึกบำเพ็ญปฏิบัติ เรียนรู้ที่จะทำให้ตัวเองสงบบริสุทธิ์จากภายใน เมื่อในใจสงบบริสุทธิ์ เธอจะเข้าใจอย่างแท้จริงว่าชีวิตไม่ต้องการอะไรมากหรอก แล้วในเวลานั้นความอยากอาหารของคุณก็จะลดลงอย่างเป็นธรรมชาติ” นี่คือสาระสำคัญของการลดน้ำหนัก ด้วยการลดความต้องการจากภายใน ก็เหมือนกับผู้ปฏิบัติธรรม เมื่อความต้องการและภาระจากภายในลดลง ร่างกายก็จะเพรียวลง การลดน้ำหนักเป็นการต่อสู้ของตัวเองกับตัวเอง การลดน้ำหนักต้องใช้การควบคุม ความอดทน และเพิ่มเติมด้วยความแน่วแน่ ผลลัพธ์ที่สำเร็จลุล่วงสงวนไว้สำหรับคนที่มีความมุ่งมั่นพากเพียรเท่านั้น จะเห็นผลสำเร็จหรือไม่ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะพิชิตใจของตัวเองได้ไหม!”
ต่อไปฉันจะบอกหลิงหลิงให้เอา Richen เป็นตัวอย่าง Richen กราบอัษฎางคประดิษฐ์วันละ 3-4 ชั่วโมงโดยไม่หยุดหย่อน ร่วมกับการลดน้ำหนักด้วยวิธี “4 in 1” หลังจากที่เธอพยายามมาสามเดือน ดังคำที่ว่าผลลัพธ์ย่อมเกิดกับคนที่มีความเพียร ดังนั้นเธอจึงลดน้ำหนักได้สำเร็จ! เมื่อมีปณิธานแน่วแน่ การลดน้ำหนักก็กลายเป็นเรื่องง่าย หลังจากที่หลิงหลิงได้ฟังเธอก็เกิดความฮึกเหิมขึ้นในใจและพูดว่า “ก็ได้ ฉันจะเชื่อที่คุณพูด”

การแบ่งปันคือการให้ทาน
Richen เป็นแฟนตัวยงของการลดน้ำหนักด้วยการกราบอัษฎางคประดิษฐ์และวิธีแบบ “4 in 1” จากการที่เธอใช้วิธีเหล่านี้ในการลดน้ำหนักโดยใช้เวลาไม่ถึง 3 เดือนจนลดจาก 72 กก. เหลือ 59 กก. เธอจึง “กระจายข่าวออกไป” และแบ่งปันประสบการณ์การลดน้ำหนักของเธอกับคนอื่น เธอพูดว่า: “ฉันคลอดลูกมาสิบกว่าปีแล้ว แต่น้ำหนักก็ไม่ลดเลย แถมยังอ้วนขึ้นเรื่อย ๆ อีกต่างหาก ฉันก็เคยเป็นวัยรุ่น ฉันก็เคยมีหุ่นผอมเพรียวนะ! แต่หลังจากได้ลองใช้วิธีการต่าง ๆ มามากมายและจ่ายเงินไปเป็นจำนวนมาก ทำซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่ก็ไม่เกิดผลอะไรเลย เป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดมาก”
“ในเดือนตุลาคม ค.ศ.2011 ฉันโชคดีมากที่ได้รับวารสาร “การปฏิบัติธรรมและสุขภาพ” ฉบับเดือนกันยายนของปีนั้น ฉันจึงได้เห็นวิธีการลดน้ำหนักที่ท่านปรมาจารย์จินโพธิแนะนำ ── นั่นก็คือการกราบอัษฎางคประดิษฐ์และฉันก็เริ่มลองทำตาม คิดไม่ถึงเลยว่าผลที่ได้นั้นดีจริง ๆ ! แล้วฉันก็ทำร่วมกับวิธีลดน้ำหนักแบบ ‘4 in 1’ ที่แนะนำในวารสารฉบับต่อมา หลังจากนั้น 3 เดือน น้ำหนักของฉันก็ลดลงไปจากเดิม 72 กก. เหลือเพียง 59 กก. ฉันมีความสุขมากค่ะ วิธีการเหล่านี้มันดีมากเลย ไม่ต้องใช้เงิน แล้วก็ไม่ต้องกังวลเรื่องผลข้างเคียงด้วย ผลลัพธ์ที่ได้ก็น่าทึ่งมาก ๆ ค่ะ”
“ที่วิเศษไปกว่านั้นคือเมื่อก่อนฉันเป็นโรคเยื่อจมูกอักเสบอย่างรุนแรง เป็นเวลาสิบกว่าปีแล้วที่ฉันมักจะคัดจมูก จามไม่หยุด และมีน้ำมูกอยู่เสมอ นอกจากนี้ฉันยังมีอาการปวดหัวและเวียนศีรษะด้วย ปัญหาเหล่านี้ทำให้ฉันอึดอัดและเจ็บปวดเหลือเกิน แต่ปัญหาเหล่านี้กลับหายไปอย่างไม่ทันรู้ตัวในระหว่างขั้นตอนการลดน้ำหนักด้วยการกราบอัษฎางคประดิษฐ์ ช่างน่าเหลือเชื่อจริง ๆ ค่ะ!”
“นอกจากนี้ฉันยังมีอาการท้องผูกอย่างรุนแรง มักจะมีเลือดออกและก่อให้เกิดริดสีดวงทวาร 7-8 ปีที่ผ่านมา 3-4 วันฉันถึงจะขับถ่ายครั้งหนึ่งซึ่งใช้เวลาครึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมงในแต่ละครั้ง ถ้าไม่ระวังออกแรงมากเกินไปก็จะมีเลือดออกได้ ความรู้สึกของการกินเข้าไปแต่เอาออกไม่ได้มันช่างทรมานเหลือเกิน! แม้ว่าฉันจะเคยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพื่อทำการผ่าตัดริดสีดวงทวารถึง 2 ครั้งในปีค.ศ.2006 และ 2010 แต่อาการโดยพื้นฐานของโรคนี้ก็ยังไม่ดีขึ้นเลยค่ะ” หลังจากการกราบอัษฎางคประดิษฐ์เพียงไม่กี่เดือน ความเจ็บป่วยหลายอย่างตามร่างกายของฉันก็หายไป ฉันดีใจจนพูดไม่ออกเลยจริง ๆ สุดท้ายแล้วเหตุผลคืออะไร ฉันก็อธิบายไม่ถูกค่ะ แต่ในเมื่อเห็นผลลัพธ์ก็คุ้มค่าที่จะกระจายข่าวออกไป!”

“จริง ๆ แล้วรอบตัวฉันมีเพื่อนที่รูปร่างอ้วนมากมายหลายคน! แต่ละคนก็มีประสบการณ์การลดน้ำหนักที่เจ็บปวดกันทั้งนั้น ในเมื่อมีวิธีการที่ดี ฉันก็เลยแบ่งปันให้ทุกคน! ตราบใดที่ทุกคนลงมือทำและได้ผล ฉันก็มีความสุขแล้วค่ะ!”
Richen บอกว่าก่อนหน้านี้เคยเห็นโฆษณายาลดน้ำหนักที่ตีพิมพ์ในนิตยสารอื่น ๆ ก็เลยซื้อมาโดยไม่ได้คิดพิจารณา สุดท้ายไม่ได้ผลแถมยังส่งผลเสียต่อร่างกายอีกด้วย ด้วยความคาดหวังที่มีในความคิดแรก เป็นผลให้เธอใช้เงินไปเป็นจำนวนมาก ถึงขั้นยังเสียสุขภาพด้วย ในท้ายที่สุดกลับได้รับผลข้างเคียงอันน่ากลัวตามมา ต่อให้จะลดน้ำหนักไปได้บ้างเล็กน้อยแต่ก็ลงเอยที่ “อาการหน้าเหลืองซูบซีด” ไม่เหลือความสวยเลยสักนิด!
เพื่อป้องกันไม่ให้ทุกคนเดินทางผิด ไม่ต้องจ่ายราคาให้กับความเจ็บปวดนั้นอีก Richen ที่หวังดีจึงอยากจะแบ่งปันประสบการณ์ในการลดน้ำหนักของตนเองเต็มที เธอกล่าวไว้ว่า: “ผู้หญิงหลายคนก็เหมือนฉันในเมื่อก่อน เราต่างก็เคยมีประสบการณ์หรือบ้างก็กำลังประสบกับความเจ็บปวดจากการลดน้ำหนัก และจ่ายราคาแพงให้กับความผิดพลาดนั้น หลังจากที่ฉันลดน้ำหนักด้วยการกราบอัษฎางคประดิษฐ์และใช้วิธีลดน้ำหนักแบบ ‘4 in 1’ ที่ตีพิมพ์ในวารสาร “การปฏิบัติธรรมและสุขภาพ” ก็ปรากฏว่าได้ผลดีมาก ฉันจึงอยากประชาสัมพันธ์ให้คนได้รู้กันเยอะ ๆ หวังว่าเพื่อน ๆ จะได้รับแนวทางที่ถูกต้อง ลดน้ำหนักอย่างมีสุขภาพดี ผอมสวยและผอมอย่างมีสุขภาพดีนะคะ”
หัวใจของการแบ่งปันคือหัวใจแห่งการให้ทาน ต่อไปนี้คือการแบ่งปันจากผู้คนจำนวนมากที่เขียนส่งกันเข้ามา:
ใคร ๆ ก็พูดเรื่องการลดน้ำหนัก: การกราบอัษฎางคประดิษฐ์ส่งผลช่วยในการลดน้ำหนักเท่านั้นเหรอ?
การกราบอัษฎางคประดิษฐ์สามารถช่วยให้อาการแพ้ดีขึ้นได้หรือไม่?
จดหมายจากผู้หญิงที่แพ้แสงแดด (เหยียนเหยียน):
การลดน้ำหนักด้วยการกราบอัษฎางคประดิษฐ์นั้นได้ผลดีมากค่ะ ฉันกราบอัษฎางคประดิษฐ์วันละ 1-2 ชั่วโมงเป็นเวลา 6 เดือน สามารถลดน้ำหนักไปได้ประมาณ 7 กก. เมื่อก่อนฉันค่อนข้างอ้วน แต่ตอนนี้ฉันหุ่นเพรียวแล้ว การกราบอัษฎางคประดิษฐ์เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการลดน้ำหนักโดยไม่ต้องใช้เงินและไม่ต้องเจ็บปวดทรมานเลยค่ะ
นอกจากนี้ ตอนที่ฉันอายุสิบกว่าปีจู่ ๆ ฉันก็มีอาการ “แพ้แสง” ตราบใดที่ฉันถูกแสงแดดแม้เป็นเวลาสั้น ๆ ผิวของฉันก็จะเกิดผื่นขึ้นมา ทั้งคันและเจ็บปวด หลังจากกราบอัษฎางคประดิษฐ์มาได้สัก 2 เดือน วันหนึ่งฉันก็บังเอิญพบว่าตัวเองอยู่กลางแดดได้โดยไม่มีอาการข้างเคียงใด ๆ เกิดขึ้นเลยค่ะ ต่อมาฉันก็ลองโดนแสงแดดอย่างระมัดระวังอีก 2-3 ครั้ง ในที่สุดก็พบว่าอาการแพ้นั้นหายขาดไปแล้วโดยไม่รู้ว่าเมื่อไร! มันน่าประหลาดใจจริง ๆ ! ตอนแรกฉันแค่ต้องการลดน้ำหนัก แต่ไม่คาดคิดเลยว่าไม่เพียงแต่ฉันจะลดน้ำหนักได้สำเร็จเท่านั้น แต่อาการแพ้แดดของฉันที่เป็นมานานกว่า 20 ปีก็หายขาดได้โดยที่ไม่ต้องใช้ยาเลยค่ะ ฉันอยากจะถามว่าที่จริงแล้วเป็นกรณีเฉพาะคน หรือเป็นผลลัพธ์ที่ได้จากการกราบอัษฎางคประดิษฐ์คะ?

ตอบกลับ:
ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับความสำเร็จในการลดน้ำหนักของคุณด้วยนะ! ดีใจกับคุณจริง ๆ อันที่จริงไม่ใช่แค่คุณคนเดียวเท่านั้น หลาย ๆ คนก็เคยพบว่าอาการแพ้ของตนหายไปในช่วงที่ทำการกราบอัษฎางคประดิษฐ์เช่นกัน นี่ไม่ใช่กรณีเฉพาะคนหรือเรื่องบังเอิญ แต่ได้รับการยืนยันจากประสบการณ์ของหลาย ๆ คนแล้วว่าการกราบอัษฎางคประดิษฐ์มีผลช่วยให้อาการแพ้ดีขึ้นจริง
โรคภูมิแพ้เป็นโรคที่รักษาค่อนข้างยาก ซึ่งเป็นโรคที่คงอยู่มานานและมักจะมีแนวโน้มที่จะกำเริบซ้ำได้ ดังนั้นผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ไม่เพียงแต่มีข้อห้ามและข้อควรระวังมากมาย แต่ยังทำให้เกิดความไม่สะดวกและความทรมานในชีวิตอีกด้วย อาการของโรคภูมิแพ้แสงแดดนั้นจะมีผื่นแดงขึ้นที่ผิวหนัง ในผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการคันหรือแสบร้อนร่วมด้วย หรือแม้แต่เป็นแผลพุพองและแผลเหวอะ เนื่องจากสารก่อภูมิแพ้จากโรคแพ้แสงคือแสงแดด และแสงแดดก็มีอยู่ทั่วไปทุกที่ ดังนั้นผู้ป่วยจึงไม่เพียงแต่ต้องทาครีมกันแดด สวมแว่นกันแดด ใส่เสื้อแขนยาวและกางเกงขายาวเท่านั้น แต่ยังต้องไม่เปิดเผยส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายเมื่อออกไปข้างนอกอีกด้วย บางคนก็แพ้ครีมกันแดดหรือแม้แต่กันแดดที่เป็นเนื้อออยล์ก็ด้วย แม้แต่ทาก็ทำไม่ได้ พวกเขาต้องสูญเสียความสุขในชีวิตไปมากเพราะไม่สามารถออกไปสนุกเพลิดเพลินกลางแสงแดดได้เลย
การกราบอัษฎางคประดิษฐ์เป็นวิถีแห่งสุขภาพแบบองค์รวม ไม่เพียงแต่จะช่วยลดน้ำหนักลดความอ้วนได้เท่านั้น แต่เนื่องจากในระหว่างที่ทำการกราบอัษฎางคประดิษฐ์นั้น เป็นชุดการเคลื่อนไหวที่ทำซ้ำ ๆ อย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ผู้คนเข้าสู่สภาวะสงบได้โดยง่าย ร่างกายและจิตใจถูกปรับฟื้นฟูโดยอัตโนมัติจึงเป็นการกำจัดโรคภัยและออกกำลังเพื่อสุขภาพที่ดีด้วย
ดังนั้นหลังจากที่คุณทำการกราบอัษฎางคประดิษฐ์ ไม่เพียงแต่น้ำหนักของคุณจะลดลงเท่านั้น แต่ยังช่วยบรรเทาอาการภูมิแพ้ได้อีกด้วย ซึ่งนี่ก็เป็นเรื่องที่มีเหตุมีผล ขออวยพรให้คุณมีความสุข!
คนที่เป็นความดันสูงสามารถทำการกราบอัษฎางคประดิษฐ์ได้หรือไม่?
จดหมายจากผู้อ่านเฟยเฟย:
ฉันสูง 162 ซม. แต่กลับหนัก 68 กก. เมื่อเห็นคนอื่นมีหุ่นที่ดีและผอมเพรียว ขณะที่ตนมีความเจ้าเนื้อในทุกส่วน ในใจฉันก็จะเป็นทุกข์มากเลยค่ะ ฉันได้คิดหาวิธีมามากมายแล้ว แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้น้ำหนักลดลงเลย ตั้งแต่ได้ทำการกราบอัษฎางคประดิษฐ์ นอกจากสัดส่วนร่างกายจะดีขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว ผิวก็กระจ่างใสขึ้นด้วยค่ะ พอคนอื่นเห็นก็แทบไม่อยากเชื่อว่าฉันไม่ได้แต่งหน้าเลย
ฉันอยากจะแนะนำการกราบอัษฎางคประดิษฐ์ให้กับแม่สามีของฉันมากเลยค่ะ ซึ่งท่านมีอายุ 60 ปีและมีรูปร่างอ้วนด้วย แต่แม่สามีเป็นโรคความดันเลือดสูง เลยไม่รู้ว่าเหมาะที่จะกราบอัษฎางคประดิษฐ์ไหม? ฉันกังวลว่าท่านจะป่วยจากการออกกำลังกายหักโหมเกินไปได้ค่ะ
ตอบกลับ:
ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงควรใส่ใจกับระดับของการออกกำลังกายอย่าให้หนักจนเกินไป โดยปกติขณะที่คุณออกกำลังกาย หากคุณหายใจถี่เพียงเล็กน้อยแต่ไม่ถึงขั้นหายใจหอบ ถือว่าเป็นการออกกำลังกายที่อยู่ในระดับเหมาะสม หากแม่สามีมีอาการความดันโลหิตสูง บางครั้งอาจรู้สึกวิงเวียนได้ ดังนั้นในระหว่างการกราบอัษฎางคประดิษฐ์ควรเคลื่อนไหวอย่างช้า ๆ เคลื่อนไหวอย่างนุ่มนวล ต้องอยู่ในอารมณ์ที่สงบ ไม่เคลื่อนไหวเร็วเกินไป และไม่ทำตอนที่อารมณ์ไม่ดี เมื่อรู้สึกวิงเวียนศีรษะก็ให้หยุดพักสักหน่อย
การแพทย์แผนปัจจุบันกล่าวไว้ว่าการออกกำลังกายระดับปานกลางในระยะยาวนั้นเป็นประโยชน์ต่อการช่วยลดความดันโลหิตได้ โดยปกติผู้ป่วยความดันโลหิตสูงสามารถวิ่งจ็อกกิง วิ่งเร็ว วิ่งช้า ๆ หรือรำมวยไท่เก๊กซึ่งเป็นการออกกำลังกายแบบช้า ๆ ได้ การออกกำลังกายไม่เพียงแต่สามารถปรับอารมณ์ของคุณได้เท่านั้น แต่ยังช่วยปรับระดับความดันโลหิตของคุณด้วย การกราบอัษฎางคประดิษฐ์ก็เป็นการออกกำลังกายในลักษณะคล้ายคลึงกัน ดังนั้นคุณจึงสามารถทำได้ ไม่ต้องกังวลมากจนเกินไป มีผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงหลายรายที่ความดันโลหิตลดลงเป็นปกติด้วยการกราบอัษฎางคประดิษฐ์ ดังนั้นการกราบอัษฎางคประดิษฐ์จึงมีประสิทธิภาพในการลดความดันโลหิตได้ดีมาก
อย่างไรก็ตาม ควรระวังเมื่อค่าความดันโลหิตสูงเกินไป โปรดรอจนกว่าความดันโลหิตจะลดลงก่อนที่จะปฏิบัติ เมื่อได้ซึมซับการกราบอัษฎางคประดิษฐ์ รูปร่างของแม่สามีคุณก็จะค่อย ๆ ถูกปรับ คุณเองก็เคยมีประสบการณ์มาแล้ว ดังนั้นฉันคงไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมากไปกว่านี้แล้วละ