เซี่ยเจี๋ยเหวิน | นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา

ในปี 2000 ฉันออกจากมาเก๊ามาที่สหรัฐอเมริกาเพียงลำพัง ไม่เพียงแต่ต้องเลี้ยงลูกเท่านั้น แต่ยังต้องรับผิดชอบในเรื่องการดำรงชีวิตอีกด้วย ประกอบกับการที่ฉันอาศัยอยู่ในต่างแดน ไม่มีญาติพี่น้อง ทำให้จิตใจของฉันเกิดความเครียดเป็นอย่างมาก ในทุก ๆ วันฉันสามารถนอนหลับได้นานที่สุดเต็มที่แค่ 3 ชั่วโมงเท่านั้นค่ะ

ในปี 2007 ฉันมีก้อนเนื้อขนาดเท่าเม็ดข้าวจำนวนมากที่หน้าอกข้างขวา มีก้อนขนาดเท่าไข่ที่หน้าอกข้างซ้าย ซึ่งฉันจะปวดตื้อ ๆ อยู่บ่อย ๆ ซึ่งเมื่อ 4 ปีก่อน ฉันได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นซีสต์รังไข่ นอกจากนี้ฉันยังมีโรคธาลัสซีเมียจากกรรมพันธุ์มาตั้งแต่เด็กอีกด้วย ความเจ็บป่วยทางกายเหล่านี้ทำให้ความเครียดทางจิตใจของฉันย่ำแย่ลง ความอ้างว้างและความเจ็บปวดกัดกินหัวใจฉันเหมือนกับแมลงเลยค่ะ

โชคดีที่ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2013 บังเอิญได้มีโอกาสเดินเข้าไปในศูนย์ปฏิบัติธรรมโพธิในนิวยอร์ก ในคืนแรกของคลาสเรียนเพื่อสุขภาพ ไม่น่าเชื่อเลยว่าฉันหลับไปตั้งแต่ 5 ทุ่มจนถึง 6 โมงเช้าของวันถัดไป และจวบจนวันนี้ฉันก็ไม่เคยมีอาการนอนไม่หลับอีกเลย อาการนอนไม่หลับที่ทรมานฉันมาตลอด 2-3 ปีหายเป็นปลิดทิ้งอย่างน่าอัศจรรย์เลยค่ะ

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ฉันก็เข้าร่วมกิจกรรมปฏิบัติธรรมทุกรูปแบบที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมจัดขึ้น หมั่นฝึกปฏิบัติการกราบอัษฎางคประดิษฐ์และ “ฝึกปฏิบัติวิชามหารัศมี” ห้องเรียนเพื่อสุขภาพในเดือนมิถุนายน ปี 2013 หลังจากที่อาจารย์ให้พรแก่เราทุกคนเสร็จสิ้นแล้ว ก้อนเนื้อขนาดเท่าเมล็ดข้าวที่หน้าอกขวาของฉันก็หายไปจนหมด และก้อนเนื้อขนาดเท่าไข่ไก่ที่หน้าอกซ้ายก็มีขนาดลดลงไปครึ่งหนึ่งเลยค่ะ ในเดือนสิงหาคม ฉันไปที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจอาการ กลับพบว่าฉันหายจากโรคธาลัสซีเมียรวมทั้งการขาดธาตุเหล็กแล้วค่ะ! ซีสต์ในรังไข่ก็หายไปอย่างปาฏิหาริย์ด้วยค่ะ!

4 ปีที่แล้ว ลูกชายวัย 15 ปีของฉันเดินทางมาที่สหรัฐอเมริกา การแยกจากกันร่วม 10 ปีทำให้เกิดช่องว่างที่ใหญ่มากระหว่างแม่กับลูก ในเดือนกรกฎาคม ปี 2013 หลังจากที่ลูกชายของฉันเข้าร่วมค่ายฤดูร้อนของ CYEA ที่จัดขึ้นโดยศูนย์ปฏิบัติธรรมก็เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ขึ้นกับเขา: เดิมทีเขามักจะโดดเรียนแต่แล้วเขาก็ไม่เคยโดดเรียนอีกเลย; จากที่เขามักจะทำหน้าตายตอนนี้เขายิ้มอย่างมีความสุขแล้ว นอกจากนี้เขายังเริ่มที่จะเป็นฝ่ายแบ่งปันความรู้สึกในการเรียนและชีวิตของเขากับฉันด้วยค่ะ การได้เห็นลูกชายสุดที่รักกลับมาร่าเริงมีความสุขอีกครั้ง ทำให้ชีวิตของฉันหอมหวานเหมือนได้กินน้ำผึ้งจริง ๆ ค่ะ

การปฏิบัติธรรมโพธิทำให้ฉันมีสุขภาพแข็งแรง และได้โอบรับความสุขไปพร้อมด้วย!

โดยพื้นฐานแล้วคนที่ชอบยิ้มจะเป็นคนที่มีความสุขไปตลอดทั้งชีวิต มีมนุษยสัมพันธ์ดี หน้าที่การงานดี ครอบครัวสุขสันต์… ดังนั้นหากอยากให้ดวงชะตาของตนเองดีขึ้นต้องยิ้มไว้อยู่เสมอ

——ปรมาจารย์จินโพธิ

(หมายเหตุ: ผลลัพธ์ของการปฏิบัติธรรมจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล)

ภาพถ่ายและบทความจัดทำขึ้นโดยศูนย์ปฏิบัติธรรมโพธินิวยอร์กในสหรัฐอเมริกา