วางไช่เจิน/ไต้หวัน

การนอนหลับไม่สนิทของฉัน กลายเป็นความทุกข์ใจของทั้งครอบครัว

ตั้งแต่แต่งงานและมีลูกฉันแทบจะไม่ได้นอนหลับสบาย ๆ อีกเลยค่ะ คุณภาพการนอนก็ค่อนข้างแย่และสั้นมาก หลับไปได้ไม่ถึง 2 ชั่วโมงก็ตื่นแล้ว การนอนตื่นไวเป็นเวลาหลายปีทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของฉันอ่อนแอลง มือและเท้าของฉันก็เย็นลง ฉันมักจะปวดหัวและเป็นหวัดอยู่เสมอ สภาพอารมณ์ของฉันก็กลายเป็นขี้โมโห เมื่อลูกมีธุระมาถามฉัน ฉันก็มักจะพูดออกไปอย่างไม่มีความอดทนว่า “ไปหาพ่อเลยไป” ซึ่งทำให้เมื่อโตขึ้นลูกก็เลยไม่ชอบอยู่ใกล้ฉัน ครอบครัวของฉันประกอบธุรกิจเครื่องใช้ในครัวค่ะ การเข้าสังคมกับเพื่อน ๆ จึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เมื่อสามีชวนฉันไปร่วมงานด้วย ฉันก็มักจะปฏิเสธ ฉันค่อย ๆ มีนิสัยชอบสันโดษเอาแต่ใจตนเอง มีข้อสงสัยและความลังเลที่จะโต้ตอบกับบุคคลภายนอก และก็ไม่ชอบพูดคุยกับใครค่ะ

ด้วยเหตุนี้ครอบครัวของฉันจึงต้องลำบากเพื่อฉันอยู่เสมอ พวกเขาตามหาหมอมาทุกที่ ซึ่งฉันไปพบหมอเกือบ 3 วันต่อสัปดาห์ มีอยู่ช่วงหนึ่ง ฉันได้รับการรักษาด้วยการแพทย์แผนจีนมาเป็นเวลา 2 ปีครึ่งค่ะ ในทุก ๆ วันฉันต้องใช้ยาจีนที่แตกต่างกัน 3 ชนิดเพื่อปรับสภาพร่างกายของฉัน แต่คุณภาพการนอนหลับก็ดีขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้นค่ะ

ฉันไปพบแพทย์ทุกที่เท่าที่ทำได้ ฉันกินยาที่ทั้งจำเป็นและไม่จำเป็นมาหมดแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ผล ครอบครัวของฉันและฉันแทบจะเป็น “บ้า” ไปแล้ว

ต่อมาสามีก็คิดหาวิธีให้ฉันไปปีนเขาและออกกำลังกาย เขาคิดว่าหลังจากที่เหนื่อยจนเพลียกลับมา ฉันก็คงจะสามารถล้มตัวลงเตียงและเข้านอนได้ละมั้ง? 

ผลที่ได้ล่ะ? ฉันในวัย 65 ปี ตื่นตี 2 ไปปีนภูเขาหยกซึ่งสูงกว่าระดับน้ำทะเล 3,000 กว่าเมตร เมื่อลงมาจากเขาก็ยังนอนไม่หลับ หลังจากเดินไปตามเส้นทางวิบากปาฝูได้ระยะทาง 27 กิโลเมตร ขณะที่คนอื่น ๆ เหนื่อยมากจนผล็อยหลับไป ดวงตาของฉันกลับยังคงเบิกกว้าง เฝ้ารอให้อาการง่วงซึมมาเยือน

ฉันที่รู้สึกเหนื่อยล้าทั้งร่างกายและจิตใจคิดว่า : ปัญหานี้อาจเกิดจากความกังวลที่ต้องดูแลครอบครัวและทำธุรกิจไปด้วยกัน หลังจากนั้นฉันก็บอกกับสามีว่าฉันต้องการพักผ่อน ปิดร้านเถอะ แต่การนอนหลับของฉันก็ยังไม่ดีขึ้นเลยค่ะ

เดินเข้าศูนย์ปฏิบัติธรรมพร้อมโรคภัยที่รุมเร้ามา 40 ปี เพื่อปล่อยวาง

ในปีต่อมาลูกสาวคนโตของฉันช่วยสมัครเข้าร่วมในหลักสูตร “ห้องเรียนเพื่อสุขภาพการปฏิบัติธรรมโพธิ” ที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมโพธิจัดขึ้น ตั้งแต่นั้นมาทุกสิ่งทุกอย่างของฉันก็เปลี่ยนไปค่ะ

หลังกลับจากการเรียนในวันแรกฉันรู้สึกเหนื่อยมากค่ะ พอกลับถึงบ้าน ก็เข้านอนแต่หัวค่ำ นอนยาวจนถึงเช้าเลยค่ะ เมื่อฉันตื่นขึ้นมาในวันรุ่งขึ้น ฉันก็รู้สึกกระปรี้กระเปร่า ราวกับว่าฉันได้กลับคืนสู่วัยเยาว์ หรืออธิบายได้ว่า “คืนแห่งการนอนหลับที่ดีเติมพลังความกระปรี้กระเปร่า”

หลังจากเรียนได้เพียงวันเดียวก็ทำให้ปัญหาการนอนของฉันเปลี่ยนไป ผลลัพธ์ที่อัศจรรย์นี้ ทำให้ฉันมั่นใจในการปฏิบัติธรรมโพธิ ดังนั้นแม้ว่าจะคลาสเรียนจะจบลงแล้ว ฉันก็ยังไปที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมเกือบทุกวัน ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาฉันก็นอนหลับได้ดีทุกคืนเลยค่ะ!

นอกจากการปรับเปลี่ยนคุณภาพการนอนหลับให้ดีขึ้นแล้ว ทุกครั้งที่ฉันฝึก “หลักเกณฑ์การฝึกปฏิบัติวิชามหารัศมี” ฉันก็จะรู้สึกว่าลมปราณของโรคภัยจำนวนไม่น้อยได้ถูกขับออกจากร่างกายของฉันไป ตอนที่เก็บพลังในช่วงท้าย ฉันรู้สึกถึงความอบอุ่นตามร่างกาย ร่างกายสบาย ผ่อนคลาย และเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา ยิ่งฝึกฝนมากฉันก็ยิ่งมีความสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ

บนพื้นฐานดังกล่าวนี้ ฉันยังได้เริ่มทำการกราบอัษฎางคประดิษฐ์ด้วย ทุกครั้งที่ฉันกราบฉันใช้หัวใจที่เคารพบูชาและสำนึกในพระคุณอยู่เสมอ ฉันขอบคุณที่ตัวเองมีโอกาสได้พบกับการปฏิบัติธรรมโพธิ อายุขนาดนี้ก็ยังสามารถฟื้นฟูสุขภาพกลับมาได้ ไม่ต้องให้ครอบครัวมาคอยกังวลเรื่องสุขภาพของฉันอีก ตอนที่กราบ ยิ่งคิดก็ยิ่งมีความจริงใจ ยิ่งกราบยิ่งมีความสุข พลังงานในร่างกายมีเพียงพอมากขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนี้ภูมิต้านทานและร่างกายของฉันแข็งแรงขึ้นแล้ว เมื่อก่อนเมื่ออากาศเปลี่ยนแปลงฉันก็จะเป็นหวัด แต่ตอนนี้ฉันแทบไม่เคยเป็นหวัดอีกเลยค่ะ มือและเท้าที่เคยเย็นเฉียบมาเป็นเวลาหลายปีก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเช่นกัน

การปฏิบัติธรรมจุดประกายชีวิตให้สดใส

ในขณะที่สุขภาพของฉันดีขึ้น จิตใจก็ได้รับการฟื้นฟูเช่นกัน ทุกครั้งที่ฉันฟังการบรรยายของท่านปรมาจารย์จินโพธิ ฉันรู้สึกราวกับว่าทุกประโยคกำลังพูดถึงฉันอย่างไรอย่างนั้น ซึ่งนั่นทำให้ฉันตระหนักได้ถึงข้อบกพร่องของตัวเอง ฉันมักจะสำนึกผิดและร้องไห้ด้วยเหตุนี้อยู่เสมอ

ในคลาสสวดมนต์ ตอนที่อาจารย์พูดว่า “ขอบคุณคนในครอบครัวสำหรับการเสียสละนับไม่ถ้วนที่ทำเพื่อเรา” น้ำตาของฉันก็ร่วงลงมาเหมือนเม็ดไข่มุก ไหลลงมาไม่หยุด ความเสียใจทั้งหมดที่อยู่ในใจของฉันถูกล้าง กรอง และชำระจนบริสุทธิ์! ด้วยวิธีนี้นี่เองที่ทำให้จิตใจของฉันมีความสุข ผ่อนคลาย และอารมณ์ดีขึ้น

ตอนนี้ฉันเป็นคนช่างพูดมาก และได้ความมั่นใจในตัวเองกลับคืนมา ฉันได้เรียนรู้ความโอบอ้อมอารี ความเมตตาและความสำนึกรู้คุณ เหมือนว่าจู่ ๆ ก็ได้เดินออกจากความมืดมาสู่แสงอาทิตย์ ได้พบความอบอุ่นและความสวยงามมากมายรอบ ๆ ตัวของฉัน และฉันก็เบิกบานด้วยรอยยิ้มที่จริงใจ เมื่อได้เห็นการเปลี่ยนแปลงมากมายของร่างกายและจิตใจในช่วงเวลาสั้น ๆ ทุกคนในครอบครัวต่างก็ดีใจและยิ้มอย่างสบายใจ! ทุกวันเสาร์ได้กลายเป็นวันรวมญาติของเราไปแล้ว ลูก ๆ ที่แต่เดิม “ไม่สนิทกับฉัน” กลับบ้านมาเยี่ยมฉันในทุกครั้งที่ถึงวันพบปะ สมาชิกทั้งครอบครัวต่างก็มีความสุข เมื่อเห็นผิวของฉันเป็นสีแดงระเรื่อ เพื่อน ๆ ของฉันหลายคนก็อุทานว่า: “ฉันจำเธอแทบไม่ได้เลย!” พวกเขาบอก ฉันเปลี่ยนไปเหมือนเป็นคนละคนเลย และรู้สึกได้ถึงความเป็นมิตร ความสุขภาพดี และความสุขที่ออกมาจากรูปร่างหน้าตาและรอยยิ้มของฉัน!

การปฏิบัติธรรมโพธิเป็นสิ่งที่จุดประกายชีวิตของฉัน! เพื่อให้คนที่มีสุขภาพแข็งแรงและมีความสุขเพิ่มมากขึ้น ฉันขอส่งต่อความรักไปทั่วโลกและจุดประกายชีวิตที่สดใสอย่างไม่มีที่สิ้นสุดไปพร้อมกับทุกคน!

(หมายเหตุ: ผลลัพธ์ของการปฏิบัติธรรมอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล)