ภูมิคุ้มกัน

ระบบภูมิคุ้มกันของมนุษย์

ร่างกายมนุษย์ทุกคนเกิดมาพร้อมกับคุณหมอรักษาทั่วไป ซึ่งเป็นระบบการรักษาตัวเองของร่างกาย จากการวิจัยพบว่า 60%-70% ของโรคต่าง ๆ จะสามารถฟื้นตัวได้โดยอาศัยความสามารถในการรักษาตัวเองของร่างกาย ที่พบบ่อย ๆ เช่น หวัด มีไข้ นอนไม่หลับ บาดแผลขนาดเล็ก ท้องร่วง แผลในปาก และ “โรคสามสูง” (*ไขมันในเลือดสูง ความดันเลือดสูง น้ำตาลในเลือดสูง) ที่อาการไม่หนัก เป็นต้น

ระบบในการรักษาตัวเองนั้นมีขนาดใหญ่มาก ประกอบด้วย ระบบภูมิคุ้มกัน ระบบตอบสนองต่อความเครียด ระบบซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ เป็นต้น ในบรรดาระบบเหล่านี้ระบบภูมิคุ้มกันเป็นเกราะป้องกันที่สำคัญที่สุดของร่างกายมนุษย์ เมื่อมีเชื้อโรคเข้ามา ระบบภูมิคุ้มกันจะสามารถรับรู้สิ่งแปลกปลอมได้อย่างมีประสิทธิภาพ และส่ง “กองทัพภูมิคุ้มกัน” ไปทำลายล้างพวกมัน เพื่อให้ร่างกายมนุษย์ปราศจากเชื้อโรคนั้น ๆ

อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปแล้วคนสมัยใหม่นั้นมีแรงกดดันสูง ความคิดวุ่นวาย ทานอาหารไม่ครบ 3 มื้อ เหนื่อยล้ามากเกินไป นอนดึก สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น ประกอบกับการรุกล้ำของมลพิษทางอากาศและทางน้ำจากภายนอก ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของตนเองอ่อนแอลงเป็นอย่างมาก

อยากมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงไหม? การปฏิบัติธรรมโพธิช่วยคุณได้

ร่างกายมนุษย์เป็นส่วนประกอบอินทรีย์ทั้งหมด พลังงานที่เพียงพอเป็นพื้นฐานในการรักษาการทำงานขององค์ประกอบทั้งหมด การแพทย์แผนจีนเชื่อว่า “เมื่อเชื้อโรครวมตัวกัน พลังปราณจะต้านไม่ไหว ” เมื่อพลังปราณที่ดีของร่างกายไม่เพียงพอ ปราณที่ไม่ดีก็จะบุกเข้ามาอย่างง่ายดาย การตอบสนองของภูมิคุ้มกันคือการเผชิญหน้ากันระหว่างพลังดีและพลังงานไม่ดี จากการวิจัยพบว่า การผ่อนคลายทางร่างกายและจิตใจสามารถช่วยส่งเสริมการเติบโตของจำนวนเซลล์ภูมิคุ้มกันและปรับปรุงการทำงานของเซลล์ได้ ในทางตรงกันข้ามอารมณ์เชิงลบก็สามารถกระตุ้นให้เซลล์ภูมิคุ้มกันและเซลล์ปกติฆ่ากันเองได้

การปฏิบัติธรรมโพธิสามารถบำรุงพลังในการขับเคลื่อนการดำรงชีวิตของร่างกายได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งเพิ่มพลังงานบวก ยกระดับภูมิคุ้มกัน สร้างสมดุลของพลังงานที่ไม่สมดุล ทะลวงพลังงานที่อุดตันให้โปร่งโล่ง และทำให้ระบบทั้งหมดทำงานอย่างมีสุขภาพดีและเป็นระเบียบ การปฏิบัติธรรมยังสามารถชำระร่างกายและจิตใจให้บริสุทธิ์ขจัดความกลัดกลุ้ม ปรับเปลี่ยนอารมณ์ด้านลบ บรรเทาความเครียด และทำให้ร่างกายและจิตใจได้รับการผ่อนคลายอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น จิตใจที่สงบผ่อนคลายกับพลังงานบวกที่เพียงพอเป็นกำลังสนับสนุนที่ดีที่สุดสำหรับการปกป้องสุขภาพของมนุษย์เราตลอดมา

วิธีเพิ่มภูมิคุ้มกัน

 

วิถีแห่งการคืนสู่ธรรมชาติเพื่อสุขภาพที่ดี

เมื่อคนเรารู้สึกเหนื่อยล้า กลัดกลุ้ม และสับสน ให้กลับคืนสู่ธรรมชาติ – สูดอากาศบริสุทธิ์ สัมผัสแสงแดดอุ่น ๆ เหยียบย่ำบนพื้นดินนุ่ม ๆ มองต้นไม้สีเขียวขจี…คุณจะรู้สึกว่าพลังงานด้านลบในร่างกายและจิตใจของคุณนั้นได้หายไปอย่างรวดเร็ว ทำไมจึงเป็นเช่นนี้?

อ่านบทความ

การปฏิบัติธรรมเพื่อเสริมภูมิคุ้มกันอย่างครอบคลุม

ภูมิคุ้มกันต่ำก็สู้กับไวรัสที่รุกล้ำเข้ามาไม่ได้ แล้วถ้าภูมิคุ้มกันสูงเกินจะเป็นการทำลายตัวเองไหม? เราจะมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงในภาวะโรคระบาดของปัจจุบันได้อย่างไร?

อ่านบทความ

เสริมภูมิคุ้มกัน กินแบบนี้ได้ผลเป็นที่สุด

เมื่อต้องเผชิญกับเชื้อไวรัส ภูมิคุ้มกันเป็นคุณหมอที่ดีที่สุด เพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน อาหารการกินนั้นเป็นปัจจัยพื้นฐานและมีความสำคัญมาก กินอย่างไรเพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน? มาทำความรู้จักกับประเด็นสำคัญของอาหารเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายกันเถอะ

อ่านบทความ

การปฏิบัติธรรมโพธิช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน

เมื่อ 10 ปีที่แล้ว สภาพร่างกายของฉันเริ่มทรุดโทรม อย่างแรกคือภูมิคุ้มกันลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ฉันกลัวความหนาวเย็นเป็นพิเศษ ในสภาพอากาศร้อนของสิงคโปร์ ใคร ๆ ก็ใส่เสื้อแขนสั้นกันทั้งนั้น แต่ฉันต้องใส่เสื้อคลุมหนา ๆ ถึงจะรู้สึกอบอุ่นค่ะ นานวันเข้า อาการหวัดก็ค่อย ๆ กลายเป็น “เรื่องประจำวัน” ของฉัน ในกรณีที่รุนแรงคือฉันเป็นหวัดเกือบทุก ๆ 2 สัปดาห์ มีอาการปวดหัว น้ำมูกไหล อ่อนเพลียง่าย และมักจะรู้สึกไม่มีแรงในการทำงาน ที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือ แผ่นหลัง เอวและขาของฉันเริ่มแข็งจนปวด เมื่อประจำเดือนมาขาของฉันก็จะปวดมากจนเดินไม่ได้เลยค่ะ เพื่อที่จะบรรเทาความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับร่างกายของฉัน ฉันจึงมักจะไปพบแพทย์แผนจีนโดยทำการนวดทุยหนา แต่การนวดก็ได้ผลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
Read Article
ตั้งแต่แต่งงานและมีลูกฉันแทบจะไม่ได้นอนหลับสบาย ๆ อีกเลยค่ะ คุณภาพการนอนก็ค่อนข้างแย่และสั้นมาก หลับไปได้ไม่ถึง 2 ชั่วโมงก็ตื่นแล้ว การนอนตื่นไวเป็นเวลาหลายปีทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของฉันอ่อนแอลง มือและเท้าของฉันก็เย็นลง ฉันมักจะปวดหัวและเป็นหวัดอยู่เสมอ สภาพอารมณ์ของฉันก็กลายเป็นขี้โมโห เมื่อลูกมีธุระมาถามฉัน ฉันก็มักจะพูดออกไปอย่างไม่มีความอดทนว่า “ไปหาพ่อเลยไป” ซึ่งทำให้เมื่อโตขึ้นลูกก็เลยไม่ชอบอยู่ใกล้ฉัน ครอบครัวของฉันประกอบธุรกิจเครื่องใช้ในครัวค่ะ การเข้าสังคมกับเพื่อน ๆ จึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เมื่อสามีชวนฉันไปร่วมงานด้วย ฉันก็มักจะปฏิเสธ ฉันค่อย ๆ มีนิสัยชอบสันโดษเอาแต่ใจตนเอง มีข้อสงสัยและความลังเลที่จะโต้ตอบกับบุคคลภายนอก และก็ไม่ชอบพูดคุยกับใครค่ะ
Read Article