“ภาวะพร่องสุขภาพ” เป็นแนวคิดที่เกิดขึ้นใหม่ในศตวรรษยุคใหม่และค่อย ๆ กลายมาเป็นปัญหาสุขภาพใหญ่ที่ไม่ควรมองข้าม อย่างไรก็ตามในขั้นตอนของการทำความเข้าใจคำคำนี้ ยังมีความเข้าใจผิด ๆ อีกมากมาย

1.ภาวะพร่องสุขภาพเป็นโรคชนิดหนึ่งใช่หรือไม่?

ผู้ที่อยู่ในภาวะพร่องสุขภาพมักจะมีอาการเหนื่อยล้าบ่อย อ่อนแรง หงุดหงิด กระสับกระส่าย แน่นหน้าอก เบื่ออาหาร ปวดศีรษะ หูอื้อ วิตกกังวล เป็นต้น แต่หลังจากการตรวจอุปกรณ์กลับไม่พบร่องรอยของโรคใด ๆ อันที่จริงภาวะพร่องสุขภาพไม่ใช่สภาวะของโรค แต่เป็นสภาวะที่การทำงานบางอย่างของร่างกายและจิตใจไม่สมดุล แต่ยังไม่ได้เกิดเป็นโรคชนิดใดชนิดหนึ่ง

2.ไม่จำเป็นต้องสนใจภาวะพร่องสุขภาพ

หลายคนคิดว่าเนื่องจากภาวะพร่องสุขภาพไม่ใช่โรคในทางการแพทย์ ดังนั้นไม่ต้องสนใจก็ได้ อย่างไรก็ตามภาวะพร่องสุขภาพไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต การงาน การสื่อสารระหว่างบุคคล การเรียนรู้และการเติบโตเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อทุกระบบของร่างกายด้วย อาการต่าง ๆ ของภาวะพร่องสุขภาพเป็นสัญญาณเตือนภัยล่วงหน้าที่ร่างกายส่งมาหาเรา หากไม่ปรับตัวอย่างจริงจัง นานวันเข้าก็จะกลายเป็นโรคในที่สุด

3.กินยาเสริมอาหารเมื่อรู้สึกว่าไม่สบาย

บางคนเมื่อรู้สึกว่าร่างกายไม่สบายก็นึกถึงยาชูกำลังเป็นสิ่งแรก เมื่อคุณเห็นผมขาวและผมร่วง นั่นหมายถึงการขาดเลือด ถ้ารู้สึกหนาวคือการขาดพลังหยาง และถ้าขาอ่อนแรงหมายถึงการขาดพลังชี่…อันที่จริงร่างกายเป็นระบบที่ซับซ้อนมาก สาเหตุของความรู้สึกไม่สบายอาจมาจากหลายด้าน อาการบางอย่างที่ดูเหมือนว่ามีอาการอ่อนแรงอาจเป็นเพราะมีธาตุไฟสูงเกินไป ดังนั้นอย่าสุ่มสี่สุ่มห้าเลือกยาชูกำลังหรือผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพเอาเอง พฤติกรรมที่ดูเหมือนจะ “ดีต่อสุขภาพ” เหล่านี้มีแนวโน้มที่จะทำให้ร่างกายจะทรุดลง และทำให้อาการที่เป็นอยู่แย่ลงไปอีก

4.ภาวะพร่องสุขภาพเป็นเพียงปัญหาทางร่างกายเท่านั้น

จิตใจของมนุษย์ก็เหมือนกับร่างกาย ซึ่งถูกแบ่งออกเป็นสุขภาพจิตดีและไม่ดี เมื่อสภาพจิตใจอยู่ในระหว่างสภาวะของสุขภาพจิตที่ดีและไม่ดี มันจะกลายเป็น “ภาวะพร่องสุขภาพจิต” ซึ่งส่วนใหญ่มีการแสดงออกด้วยอาการวิตกกังวล ตื่นตระหนก ความคิดสับสนวุ่นวาย ซึมเศร้า มีความเหนื่อยล้าทางจิตใจ เป็นต้น หากไม่ปรับเปลี่ยนภาวะพร่องสุขภาพจิตให้ทันท่วงที ไม่เพียงแต่มีแนวโน้มที่จะเกิดปัญหาทางจิตในระดับต่าง ๆ กันเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อสุขภาพร่างกายในทุกด้านได้ง่ายอีกด้วย

ทุกวันนี้วัยกลางคนที่ดูเหมือนจะมีสุขภาพแข็งแรงมีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่จริง ๆ แล้วพวกเขามีปัญหาสุขภาพมากมาย นอกจากนี้ก็มีคนหนุ่มสาวจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่ทำงานหนักโดยไม่คำนึงถึงสุขภาพเลย และร่างกายก็เริ่มที่จะแสดงอาการภาวะพร่องสุขภาพออกมา หากคุณรู้สึกว่าร่างกายของคุณตกอยู่ในภาวะพร่องสุขภาพ อย่าปล่อยให้ความเหนื่อยล้าค่อย ๆ ครอบงำสุขภาพของคุณ และอย่ารอจนโรคบางชนิดก่อเกิดขึ้นก่อนถึงได้เพิ่งมาตระหนักในความสำคัญของสุขภาพ ควรทำความเข้าใจในภาวะพร่องสุขภาพอย่างถูกต้อง ปรับตัวอย่างทันท่วงที และออกจากภาวะพร่องสุขภาพอย่างกระตือรือร้น ก็จะเป็นการ “ป้องกันก่อนเกิดโรค” เช่นนี้จึงจะเป็นการรับผิดชอบต่อสุขภาพของตนอย่างถูกต้อง