Christopher Chong | แคนาดา

เขาเป็นนักเทควันโดมืออาชีพผู้มีร่างกายแข็งแรง เขาเคยดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าโค้ชของทีมชาติแคนาดา เป็นผู้ตัดสินนานาชาติระดับหนึ่งของสหพันธ์เทควันโดของโลก และเป็นประธานคณะกรรมการผู้ตัดสินของแคนาดา…ในวงการเทควันโดระดับนานาชาติ แน่นอนว่าเขาเป็นบุคคลชั้นนำที่มีชื่อเสียงมาก อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาชอบให้เรียกว่าผู้ปฏิบัติธรรมมากกว่า เขาบอกว่าเขาได้หลงใหลใน “กำลังภายในปากว้าแบบโพธิ” รวมถึงการปฏิบัติธรรมเข้าเต็ม ๆ ในช่วงปลายปีค.ศ.2012 โค้ชเทควันโดทรงคุณวุฒิระดับโลกคนนี้ได้ฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของท่านปรมาจารย์ จินโพธิอย่างเป็นทางการ เขากล่าวว่า: “ท่านปรมาจารย์จินโพธิเป็นยอดจอมยุทธ์ที่แท้จริงและเป็นผู้บรรลุในการปฏิบัติทางพุทธศาสนาที่ยิ่งใหญ่ ชีวิตของผมถูกจุดประกายขึ้นมาอีกครั้งเพราะการปฏิบัติธรรม”

ทุกคนต่างก็รู้ดีว่าช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในชีวิตอาจเป็นเวลาสั้น ๆ เพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น

ก่อนวันคริสต์มาสในปีค.ศ.2012 เวลาตีห้ายามเช้าตรู่ ผมจะไปเดิน “ปากว้า” ด้วยกันกับภรรยา ผมที่ยังรู้สึกง่วงถูกห้อมล้อมอยู่ท่ามกลางฝูงชนในห้องตำหนักกวนอิมของศูนย์ปฏิบัติธรรมโพธิแวนคูเวอร์โดยกำลังเคลื่อนไหวทื่อ ๆ เหมือนเครื่องจักรกล ในเวลานั้นเองท่านปรมาจารย์จินโพธิก็เข้ามา ในขณะที่ท่านปรมาจารย์แก้ไขท่าทางการเคลื่อนไหวของนักเรียนอย่างอดทน ท่านก็ทำการสาธิตด้วยตัวเองให้ทุกคนดูไป ฝีเท้าการเดิน “ปากว้า” ของท่านทั้งมั่นคงและสง่างามเหมือนมังกรที่เดินเหินอยู่บนน้ำเลยครับ ผมเฝ้าดูอย่างตั้งใจโดยที่ละสายตาไม่ได้เลยครับ ร่างกายและฝีเท้าของท่านปรมาจารย์สอดประสานกันอย่างต่อเนื่อง ดูเหมือนราบเรียบไม่มีอะไรพิเศษแต่กลับมีความลึกลับซ่อนอยู่ ในขณะนั้นจู่ ๆ ผมก็ตระหนักได้ว่า “กำลังภายในปากว้า” ไม่ใช่แค่ “การออกกำลังกายเพื่อบำรุงสุขภาพ” อย่างที่ผมคิดเท่านั้น แต่ยังเป็นวิชากังฟูที่กว้างไกลและลึกซึ้งอีกด้วย และท่านปรมาจารย์จินโพธิก็เป็นยอดจอมยุทธ์ที่มีทักษะเฉพาะตัวแต่ซ่อนไว้อย่างลึกซึ้ง แล้วผมก็หลงใหลไปกับ “ปากว้า” และการปฏิบัติธรรมนับแต่นั้นเป็นต้นมา

บุญสัมพันธ์แห่งโพธิของภรรยา

ก่อนหน้านั้น ชีวิตผมไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับ “ปากว้า” หรือการปฏิบัติธรรมเลยครับ งานโค้ชของผมยุ่งมากทำให้ผมต้องบินไปทั่วโลก ในขณะที่ภรรยาของผมอยู่ที่บ้านดูแลลูก ๆ เป็นหลัก วันหนึ่งในช่วงต้นเดือนตุลาคมในปีเดียวกันนี้ เธอได้ยินหญิงวัยกลางคนคนหนึ่งแนะนำทางวิทยุว่าอาการเส้นเลือดขอดซึ่งค่อนข้างรุนแรงของเธอได้หายขาดหลังจากเข้าร่วมปฏิบัติธรรม เธอเองก็มีอาการคล้ายคลึงกันพอดี เธอจึงตัดสินใจลองไปศูนย์ปฏิบัติธรรมโพธิดู

ต่อมาเธอก็เข้าร่วมในห้องเรียนเพื่อสุขภาพ 8 วันครึ่งของการปฏิบัติธรรมโพธิ ในทุก ๆ วันหลังจากกลับมาบ้านเธอมีความสุขมากเลยครับ นอกจากนี้เธอยังได้เล่าถึงปาฏิหาริย์จากการปฏิบัติธรรมให้เราฟังอีกด้วย เช่น ผู้ปฏิบัติธรรมที่ป่วยอาการหายดีได้ภายในเวลาเพียงไม่กี่วัน ไปจนถึงมีรุ่นพี่ที่นั่งรถเข็นมา แต่ตอนนี้ลุกขึ้นยืนได้แล้ว พอเห็นว่าเธอตื่นเต้นแค่ไหน ผมก็อดที่จะต่อต้านกับความกระตือรือร้นของเธอแทบไม่ไหว ปากพลางพูดอย่าง​​พะเน้าพะนอว่า: “ว้าว น่าทึ่งมาก” ขณะที่ผมคิดในใจว่า: “คงไม่ใช่เรื่องจริงแน่ ๆ”

แต่เรื่องต่าง ๆ กลับดำเนินไปไกลเกินความคาดหมายของผมมาก อย่างแรกเลยคืออาการเส้นเลือดขอดของภรรยาดีขึ้นไวมาก เมื่อก่อนเธอจะปวดเข่าทุกวัน บวมโตเหมือนหมั่นโถวเลย อยากจะนั่งยองก็เป็นเรื่องที่ลำบากมาก แต่หลังจากปฏิบัติธรรมมาได้เพียงครึ่งเดือนกว่า อาการบวมน้ำที่ขาของเธอโดยรวมได้หายไปแล้ว ไม่ว่าจะนั่งยอง หรือลุกขึ้นก็ทำได้เหมือนคนปกติทั่วไป ความเจ็บปวดก็หายไปแล้ว

หลังจากหลักสูตรห้องเรียนเพื่อสุขภาพจบลง ภรรยาก็บอกผมอย่างหนักแน่นว่าเธอจะไปศูนย์ปฏิบัติธรรมอีก สองสามวันต่อมา เธอก็สาธิตการเดิน “ปากว้า” ให้ผมดู และบอกผมอย่างจริงจังว่า นี่คือ “กำลังภายในปากว้า” เมื่อเห็นเธอเดินวนไปวนมาอยู่รอบต้นไม้ ผมก็พูดให้กำลังใจเธอ แต่ก็อดหัวเราะในใจไม่ได้: “สิ่งที่ดูน่าเบื่อแบบนี้จะเรียกว่า ‘กำลังภายใน’ ได้ยังไง?”

ปลายเดือนตุลาคม เธอบอกข่าวที่น่าทึ่งอีกเรื่องหนึ่งว่า: ต่อจากนี้ไปเธอจะไปเดิน “ปากว้า” ที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมตอนตี 5 ทุกวัน ต้องบอกก่อนว่าครอบครัวของเราอาศัยอยู่ในเมืองโคควิทแลม (Coquitlam) ครับ และต้องใช้เวลาอย่างน้อย 45 นาทีในการขับรถไปยังศูนย์ปฏิบัติธรรมที่เมืองริชมอนด์ (Richmond) ซึ่งหมายความว่าเธอต้องตื่นตอนตี 3 กว่า และออกจากบ้านก่อนเวลาตี 4:15 น. แสดงว่าเธอไม่ต้องหลับต้องนอนเลยหรือไง? สำหรับผมแล้วนี่มันเป็นอะไรที่บ้าสุด ๆ ไปเลย

ด้วยความอยากรู้ จึงลองพิสูจน์ดู

อย่างไรก็ตาม ความดื้อรั้นของภรรยาได้กระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของผม: เสน่ห์ของการปฏิบัติธรรมโพธิและ “กำลังภายในปากว้า” คืออะไรกันแน่ ทำไมถึงสามารถทำให้คนที่ชอบเก็บตัวอยู่เงียบ ๆ อย่างเธอ เปลี่ยนเป็นคนที่ทุ่มเทและตื่นเต้นไปกับมันได้แบบนี้? ผมจึงขอให้เธอลงชื่อสมัครหลักสูตรห้องเรียนเพื่อสุขภาพ 8 วันครึ่งให้ผม จากนั้นเป็นต้นมาผมก็เริ่มปฏิบัติธรรมและเดิน “ปากว้า”

ในเดือนแรก ผมไม่ได้รู้สึกอะไรกับการออกกำลังต่าง ๆ มากนัก แต่ผมก็ตกหลุมรักบรรยากาศที่อบอุ่นเหมือนอยู่บ้านของศูนย์ปฏิบัติธรรมเข้าอย่างไม่รู้ตัว กลายเป็นคนที่มีความสุขขึ้นมาก นอกจากจะพาภรรยาไปเรียนในคลาสต่าง ๆ แล้ว ถ้าผมไม่ได้ไปเดิน “ปากว้า” ในตอนเช้า ผมก็จะรู้สึกเหมือนในวันนั้นมีอะไรขาดหายไป ในวันคริสต์มาสของปีนั้น ศูนย์ปฏิบัติธรรมโพธิในแวนคูเวอร์ได้จัดคลาสการปฏิบัติธรรมขั้น 3 ที่สอนโดยท่านปรมาจารย์จินโพธิ ผมกำลังยืนอยู่ท่ามกลางลมหนาวนอกศูนย์ปฏิบัติธรรมเพื่อควบคุมการจราจร ขณะเดียวกันก็คิดว่า: “ฉันเป็นถึงโค้ชทีมชาติที่มีเกียรติ ในทุกวันก็จะถูกนักเรียนล้อมหน้าล้อมหลัง ตอนนี้กลับตกอับเป็นคนสอดส่องลานจอดรถอยู่ที่นี่ได้ยังไง ยิ่งไปกว่านั้นฉันดูมีความสุขอะไรขนาดนี้?”

จนกระทั่ง วันที่ผมได้พบกับ ท่านปรมาจารย์จินโพธิ ผมจึงตระหนักได้ว่าที่แท้ความอุตสาหะและความมุ่งหวังทั้งหมดก่อนหน้านี้ก็ปูทางมาเพื่อการทำแบบนี้นี่เอง

หลังจากได้สัมผัสถึงความยิ่งใหญ่และลึกซึ้งของ “ปากว้า” ผมก็เริ่มฝึกฝนอย่างสุดความสามารถ ในช่วงสองสามวันแรกผมมีเหงื่อออกมาก หลังจากเดินได้เพียง 15 นาที ผมก็เปียกไปทั้งตัว เนื่องจากผมเองก็เป็นโค้ชที่มีประสบการณ์ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่จะสามารถวิเคราะห์ท่าทางการเคลื่อนไหวในการเดิน “ปากว้า” ของท่านปรมาจารย์จินโพธิได้ และพยายามทำให้เข้าที่มากขึ้น ผมรู้สึกว่าพื้นฐานทักษะปากว้าของท่านปรมาจารย์นั้นลึกซึ้งมาก ผมได้ดูวิดีโอการเดิน “ปากว้า” ของท่านปรมาจารย์มาหลายครั้งแล้ว บางครั้งผมก็ให้ความสนใจกับการเคลื่อนไหวและเทคนิคในร่างกายส่วนบนของท่าน บางครั้งผมก็จะสังเกตฝีเท้าของท่าน แล้วก็บางครั้งผมก็สามารถรู้สึกได้ถึงการสอดประสานกันของการเคลื่อนไหวทั้งหมด…ยิ่งไปกว่านั้นผมยังเข้าใจพลังงานทั้งหมดที่เป็นส่วนประกอบอยู่ในร่างที่พลิ้วไหวดุจเมฆ ไหลลื่นดั่งน้ำของท่านปรมาจารย์ด้วย พูดได้ว่าในทุก ๆ ระยะที่ผมฝึกฝนจนถึงระดับใหม่แล้วไปดูวิดีโอนี้อีกครั้งก็จะมีการค้นพบใหม่ ๆ เสมอ

หลังจากมุ่งมั่นเดินทุกวันวันละ 1 ชั่วโมงครึ่งอย่างต่อเนื่องกันเป็นเวลา 6 สัปดาห์ ผมก็พบว่าน้ำหนักตัวเองลดลงไปสิบกว่ากิโลกรัมอย่างไม่รู้ตัว! น้ำหนักลดลงเยอะมากภายใน 6 สัปดาห์ สำหรับผมมันเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อจริง ๆ ผมเคยลองเล่นกีฬามามากมาย ในปีเดียวกันนั้นตอนที่ผมไปเกาหลีใต้เพื่อทดสอบเทควันโดสายดำระดับ 8 ของนานาชาติ ผมฝึกฝนอย่างเข้มข้นนานมากกว่า 3 เดือน ในทุกวันฝึกมากกว่า 3-4 ชั่วโมงต่อวัน หนักหน่วงมากกว่า “ปากว้า” ที่ทำอยู่ในปัจจุบันมาก แต่สุดท้ายก็ลดไปเพียง 5-6 กิโลกรัมเท่านั้นครับ

ปาฏิหาริย์เดียวกันนี้เกิดขึ้นกับภรรยาของผมด้วย หลังจากปฏิบัติธรรมอาการเส้นเลือดขอดของเธอก็หายสนิท สภาวะที่มือและเท้าหนาวชาในฤดูหนาวก็หายไป ต่อมาเธอจึงได้ฝึกฝน “หลักเกณฑ์การฝึกปฏิบัติวิชามหารัศมี” และเดิน “ปากว้า” ซึ่งเธอเองก็ลดน้ำหนักได้มากกว่า 10 กิโลกรัมเช่นกัน

ชีวิตถูกจุดประกายขึ้นอีกครั้ง

“การเรียนพระพุทธศาสนาคือการเรียนรู้ความอ่อนโยน” หลังจากการปฏิบัติธรรมแล้ว พวกเราก็เข้าใจประโยคนี้อย่างลึกซึ้ง ภรรยาของผมเคยเป็นคนสันโดษ เธอชอบเก็บทุกอย่างไว้ในใจ ผมกังวลเสมอว่าเธอก็เป็นเหมือนระเบิดเวลา และผมก็ไม่รู้ว่ามันจะระเบิดเมื่อไร หลังจากมาที่ศูนย์ปฏิบัติธรรม เธอก็เรียนรู้ที่จะเปิดตัวเอง เปลี่ยนเป็นคนที่มีความสุขมากขึ้น บางทีอาจเป็นเพราะเมื่อก่อนผมเป็นโค้ชมานาน ผมจึงมีสีหน้าที่เคร่งขรึม แต่ตอนนี้ผมยิ้มทั้งวันเลย อารมณ์ฉุนเฉียวก็น้อยมาก

การปฏิบัติธรรมในหนึ่งปีที่ผ่านมา เราทุกคนต่างก็รู้สึกถึงความเมตตาของท่าน ปรมาจารย์ จินโพธิอย่างสุดซึ้ง แม้แต่ผู้เริ่มต้นอย่างผม ท่านปรมาจารย์ก็พร่ำสอนผมอย่างอดทนและพูดด้วยเจตนาที่ดี พูดตามตรงว่าผมที่เป็นนักเทควันโดสายดำระดับ 8 ในบรรดาหลายสิบล้านคนที่ฝึกเทควันโดจากทั่วโลก มีเพียงไม่ถึง 3,000 คนที่สำเร็จในระดับนี้ได้ ก่อนปฏิบัติธรรมผมเคยคิดว่าตัวเองสุดยอดมาก แต่ตอนนี้ผมเทิดทูนท่านปรมาจารย์จินโพธิจริง ๆ ท่านไม่เพียงแต่รวมเอาแนวคิดของพระพุทธศาสนาผนวกเข้ากับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตทั่วไปเท่านั้น แต่ยังทำให้เรารับเอาความรักอันยิ่งใหญ่ที่แฝงอยู่ในนั้นได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งท่านยังมุมานะและลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง ทำให้ผู้คนหลายพันหลายแสนคนได้บอกลาความเจ็บป่วย ฟื้นคืนชีวิตที่มีสุขภาพดีและมีความสุขกลับมาอีกด้วย

การปฏิบัติธรรมและ “ปากว้า” ได้จุดประกายชีวิตของผมขึ้นมาใหม่ กระบวนการฝึกฝนได้กระตุ้นแรงบันดาลใจให้กับผมเป็นอย่างมาก ตอนนี้ ลูกสาวของผมก็ได้มาเข้าร่วมกับ CYEA (หมายเหตุ: Canada Bodhi Meditation Youth Leaders Association สมาคมผู้นำเยาวชนการปฏิบัติธรรมโพธิแคนาดา ) ส่วนลูกชายของผมก็มาเดิน “ปากว้า” ด้วย ครอบครัวของผมได้กลายเป็นครอบครัวแห่งการปฏิบัติธรรมอย่างแท้จริงไปแล้ว

ปีนี้ผมได้ปฏิเสธคำเชิญในการไปเป็นโค้ชทีมชาติรายการเทควันโดของแคนาดา ผมมุ่งหวังว่าจะใช้เวลากับการปฏิบัติธรรมและ “ปากว้า” ได้มากขึ้น และก็หวังว่าผมจะสามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้เหมือนกับท่าน ปรมาจารย์ จินโพธิ ผมจึงเริ่มสอน “ปากว้า” โดยเป็นผู้ช่วยสอนในคลาสที่ใช้ภาษาอังกฤษ และผมก็ได้แบ่งปันให้กับเพื่อนผู้ปฏิบัติธรรมด้วย…เมื่อผมส่งต่อความรักให้กับผู้อื่น ตัวเองก็รู้สึกมีความสุขไปโดยปริยาย

(หมายเหตุ: ผลลัพธ์ของการปฏิบัติธรรมแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล)

#ลดน้ำหนัก #มือเท้าเย็น #ปฏิบัติธรรม #การปฏิบัติธรรมโพธิ #จินโพธิ #เส้นเลือดขอด